ข่าวคราวของนายแพทย์ท่านหนึ่ง ยังไม่ทราบว่าจะจบแบบไหน แม้ว่าจะมีการยืนยันแล้วว่านายแพทย์ท่านนั้นมีอาการทางจิต ซึ่งก็เป็นเรื่องทางการแพทย์ที่ต้องดำเนินการกันต่อไป แต่เอาเข้าจริง ถามว่า ประเด็นที่คนทั่วไปสงสัยและติดตามข่าว เอา..เชื่อขนมกินได้ ร้อยละ 70 ไม่ได้สนใจอยากรู้ว่า นายแพทย์จะเป็นโรคจิตประเภทไหน ไม่ว่าจะหงุดหงิด หรือหงุดเงี้ยว แต่สนใจใคร่รู้ว่า หญิงสาวมือที่สามนั้น เป็นใครมาจากไหน และโผล่มาอย่างไร
นางอันเป็นที่รัก นางนั้นไม่เคยเอ่ยว่าตนเองดำรงสถานะไหน เพียงแต่บอกว่า เป็นเพื่อนสนิทรู้ใจลึกซึ้ง แต่ลักษณะการแสดงออก บ่งชี้ชัดเจนให้บรรดาแม่บ้านและชาวร้านชาวตลาดฟังธงเลยว่า “เมียน้อย” ในขณะที่หนังสือพิมพ์ ใช้คำแทนตัวเธอในการพาดหัวว่า “กิ๊ก” ซึ่งมีความหมายอ่อนกว่าคำว่าเมียน้อย ในทำนองว่า มากกว่าเพื่อนแต่มิใช่แฟน
การแสดงตัวของหล่อนอย่างชัดเจนนี้เอง ที่เรียกกระแสชมรมคนรักเมียหลวงให้ออกมาประนามหล่อนกันอย่างอึกทึกครึกโครม นี่เป็นสังคมที่กระแสเมียหลวงเป็นกระแสหลัก
ในที่นี่เราจะพูดกันถึงเรื่อง “วิธีคิด” แบบเมียน้อยเมียหลวง มิได้พูดถึงในเชิงจริยธรรมใดๆ ดังนั้นก็อาจจะล่อแหลม ฉันอาจจะโดนข้อหาเข้าข้างเมียน้อยได้ จึงขอออกตัวก่อนว่า ฉันก็เป็นเมียหลวงนะท่าน และก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าเมียน้อยพอๆ กันนั่นล่ะ
แต่สิ่งที่เรากำลังจะพูดก็คือ ไอ้เมียน้อยเมียหลวง เหตุใดจึงต้องแบ่งข้างจงเกลียดจงชังกัน แย่งตัวผู้ เอ๊ย ผู้ชาย กันอย่างเอาจริงเอาจัง พูดแบบเดิมๆ ก็คือ เราอยู่ในสังคมแบบชายเป็นใหญ่ เราจึงยึดถือที่เพศชายเป็นหลัก การได้เป็น “เมีย” จึงเป็นสถานะสำคัญของผู้หญิงไทย ได้ผัวดีก็เหมือนถูกหวย ได้รับการยกย่องมีสถานะทางสังคม เรียกว่า ผัว เป็นหน้าตาของเมีย ดังนั้นการได้ผัว ที่มีเมียแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ต้องเปิดสงครามแย่งผัวกันเสียหน่อย เข้าข่ายหญิงเหยียดหญิง ทำลายพวกเดียวกันเอง
มองแบบพวกโรคจิตคิดมาก ทฤษฎีสมคบคิด ก็ต้องบอกว่า ขบวนการของเพศชายเข้มแข็งในการสร้างบรรทัดฐานเรื่องเมียน้อยเมียหลวงขึ้นมา ก็เพื่อทำลายขบวนการเพศหญิง จะได้ไม่อาจลุกขึ้นมาล้มล้างผู้ชาย เพราะมัวแต่แก่งแย่ง ครอบครองเพศชาย ไม่มีเวลามายึดครองโลกอะไรหรอก แล้วเพศชายก็จะควบคุม “แนวความคิด” ทั่วโลกกันต่อไป (โอเวอร์เหมือนหนังซุปเปอร์แมนมากๆ เลยค่ะ) แล้วก็ให้รางวัลเพศหญิงเสียหน่อย หากเป็นเมียที่ดี หรือเป็นเพศหญิงที่อยู่ในกรอบของเพศชาย ก็มีรางวัลไปบ้าง ตำแหน่งบ้าง มีส่วนร่วมในทางการเมืองบ้าง มีหน้าตาทางสังคมบ้าง และแน่นอนมีเงินทองทรัพย์สินด้วยจากการทำงานหนักโดยไม่ไปแย่งตำแหน่งผู้นำของเพศชาย
เมียที่ดี ก็มีลักษณะที่เข้าข้างเพศชายเต็มๆ เมียหลวงที่ดี คือเมียหลวงที่ไม่ถามถึงเมียน้อย และเมียน้อยที่ดีก็คือ เมียน้อยที่ไม่ไปบุกบ้านเมียหลวง
ย้ำกันอีกว่า นี่เป็นการว่าในเชิงทฤษฎี เพราะฉะนั้น การที่ ภรรยาที่มาทีหลังเกิด จากการรักผู้ชายที่มีภรรยาแล้วอย่างมาก และยอมทุกอย่างด้วยความรัก ก็อธิบายตามทฤษฎีได้ว่า “เข้าทาง” ความต้องการของเพศชาย นั่นคือ ยินยอมอยู่ใต้กรอบเมียน้อยและเมียหลวงที่ดี (ความรักไม่อาจอธิบายเป็นทฤษฎีได้)
แต่อย่างที่บอก ผัวย่อมเป็นหน้าตาของเมีย ดังนั้น หากแม้เป็นเมียน้อย ฝ่ายหญิงก็ยอมแหกกฎเมียน้อยที่ดีในวันหนึ่ง เพื่อจะประกาศให้โลกรู้ว่า อย่างเดี๊ยน ก็มีผัวดีๆ เหมือนกัน แม้มันจะมีเมียแล้วก็เหอะ
ที่สำคัญ ตำแหน่งเมียน้อย ย่อมกดดันให้ผู้หญิงที่รับตำแหน่งนั้น ต้องแสดงตัวออกมาสักวัน แม้จะมีผัวเลี้ยงอย่างดี แต่ขาดไร้ซึ่งหน้าตาทางสังคม ต่างจากเมียหลวงที่มีความมั่นคงทางสถานะมากกว่า จึงมีส่วนสำคัญในการกดดันให้เมียน้อยทำอะไรที่ “หวือหวา” กว่าเมียหลวง และมักเป็นเหตุให้เกิดเรื่องเกิดราวมากมาย อย่างที่จะเห็นในหนังสือพิมพ์ทั่วๆไป ทั้งที่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ความผิดเรื่องเมียน้อยนี่ต้องยกให้ผู้ชายไปเต็มๆ ใครใช้ให้หาเหามาใส่หัว แล้วก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ล่ะ
กรณีเมียน้อยของนางอันเป็นที่รัก ประเด็นสำคัญคือ การที่หล่อนเป็นเมียน้อย หล่อนจึงถูกยัดเยียดความผิดให้ในสถานะเมียน้อย หล่อนตกเป็นตัวแทนของผู้หญิงไม่ดี แย่งผัวชาวบ้าน (ทั้งที่หล่อนพยายามอธิบายว่าหล่อนได้รับความเมตตาจากเพศชายผู้นั้นมากมายขนาดไหน) ถูกขุดคุ้ยประวัติชาติตระกูล ถูกขุดเอารูปถ่ายสมัยหน้าตาอย่างกับอึ่งมาตีแผ่เผยแพร่ ชีวิตของหล่อนแม้ยิ้มหน้าระรื่น จะมีใครคิดไหมว่า หล่อนก็อาจจะอกตรมอยู่ภายใน หล่อนไม่มีความสุขหรอก เพราะหล่อนกำลังเป็นจำเลยของสังคม
จำเลยของสังคมที่เทิดทูนเพศชาย
เห็นไหม ว่าผู้ชายทำอะไรก็ไม่ผิด