Monday, June 11, 2007

คณิกาสร้างวัด กับการแก้ผ้าทำบุญ




เมื่อครั้งเห็นข่าวดาราและไฮโซเปลือยผ้า ถ่ายนู้ดเพื่อหารายได้มาทำบุญให้วัดพระบาทน้ำพุ สิ่งแรกที่แวบขึ้นมาในสมองคือ ชื่อวัดคณิกาผล

วัดคณิกาผล ปัจจุบันเป็นวัดสายมหานิกาย ตั้งอยู่ถนนพลับพลาไชย บริเวณ "ไชน่าทาวน์" เยาวราช ตามประวัติว่า ในอดีตย่านนั้นเป็นสถานที่รวมของสำนักโคมเขียว ซึ่งวัดนั้นเดิมสร้างขึ้นจากกลุ่มหญิงบริการกลุ่มหนึ่งที่มีหัวหน้ากลุ่มที่ชื่อ “ยายแฟง” เป็นผู้รวบรวม และ ออกทุนให้สร้างวัดพุทธศาสนานิกายเถรวาทขึ้นที่บริเวณตรอกโคก (ปัจจุบันคือ ถนนพลับพลาไชย) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีศาลเจ้าจีน และ โรงเจตั้งขึ้นอยู่ก่อนแล้วมากมาย ชาวบ้านจึงเรียกกันง่ายๆ ตามชื่อตรอกว่า “วัดโคก” วัดนี้เปิดให้ชาวบ้าน และ สงฆ์ทำพิธีกรรมมานานจนกระทั่งเข้าสู่สมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บรรดาลูกหลานของย่าแฟงจึงขอพระกรุณาโปรดเกล้าจากรัชกาลที่ 4 ให้พระราชทานนามของวัดโคกเสียใหม่ พระองค์จึงได้พระราชทานนามว่า “วัดคณิกาผล” ตามประวัติที่มาเดิมนั่นเอง

บริเวณทางเข้าหน้าวัด มีพระพุทธรูปสมเด็จพระอาจารย์โตแห่งวัดระฆังตั้งให้ผู้มีจิตศรัทธาได้แวะเข้ามากราบไหว้ และเมื่อเดินลึกเข้าไปข้างในมีรูปปั้นครึ่งตัวของยายแฟงตั้งอยู่ มีคำจารึกที่ว่า“วัดคณิกาผลนี้ สร้างขึ้นโดยคุณยายแฟง บรรพบุรุษของตระกูลเปาโลหิตในปีพุทธศักราช 2346” (ข้อมูลจาก http://www.bmasmartschool.com)
วัดคณิกาผล จึงเป็นวัดที่เป็นผล แห่งนางคณิกา โดยแท้ ซึ่งมิใช่ความผิดของนางคณิกา หากต้องการจะสร้างวัดเพื่อทำบุญเอาบุญไปไว้เพื่อชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมาลำบากลำบนขายตัว ไม่รู้ว่าคณิกาสมัยก่อนเขาคิดกันอย่างนี้หรือเปล่านะ แต่ข้าพเจ้าบังเอิญได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนคนหนึ่ง ที่ผันตัวจากพนักงานธุรการในบริษัทอาหารชื่อดัง ไปเป็นนางคณิกาในคลับหรูอันดับหนึ่ง ที่มีค่าตัวออฟครั้งละ 2,500 บาท ขึ้นไป เธอเป็นหญิงสาวที่ชอบทำบุญมาก ทุกเดือนเธอต้องไปทำบุญโลงศพที่วัดหัวลำโพง มีบุญอะไรบอกได้ เธอช่วยหมด เธอว่า ชาติหน้าจะได้ไม่ลำบากอย่างที่เป็น เป็นความเชื่อฝังหัวเธอมาก ปัจจุบันเธออยู่ต่างประเทศ มีชายชาวอเมริกันรับเธอเป็นภรรยา และเธอเชื่อว่าเป็นผลจากการที่เธอหมั่นทำบุญกุศล

ไม่แปลกที่คน (ที่คิดว่าตนเอง) บาป จะหมั่นขยันทำบุญ และก็มิใช่เรื่องผิด ที่สังคมจะต้องประณาม หยามเหยียด หากต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเธอ ศาสนาเป็นสิ่งเดียวที่ยึดโยงจิตใจของพวกเธอ และทำให้เธอมีความหวัง (แม้จะฟังดูลมๆ แล้งๆ) กับชีวิตชาตินี้หรือชาติหน้า ดังในอดีตที่คณิกาก็สามารถรวมกลุ่มสนับสนุนสร้างวัดได้

แปลว่าข้าพเจ้าเห็นด้วยกับการถ่ายนู้ดทำบุญ... หลายคนกำลังถาม

มองเผินๆ อาจจะใช่ ข้าพเจ้าให้ความเป็นธรรมกับพวกหล่อน ในการทำบุญ ทว่า วิธีการทำบุญแบบนี้ดูว่าจะมีนัยยะแอบแผงหลายประการ อันควรค่าแก่การประณามหยามเหยียด!!

พวกหล่อน กระทำการนี้ โดยมิได้มีเจตนาบริสุทธิ์เพื่อการทำบุญ เขียนเป็นโมเดลก็คือ หล่อน--------ถ่ายนู้ด(มีคำปกป้องโก้เก๋ว่าไม่เอาค่าตัว)---------โฆษณา/ลงสื่อ/เป็นข่าว-----------ประมูล-----------เอาเงินไปทำบุญ

ก็พวกหล่อนแต่ละคน ล้วนเป็นคนมีหน้ามีตา มีเงิน มีศักดิ์ศรีในสังคม พวกหล่อนกำเงินไปคนละสามหมื่นห้าหมื่น (หรือบางคนไอ้เงินหลักล้านนั้นถือว่า “ขี้ๆ”) ไปทำบุญโดยตรงเลยตั้งแต่แรก ตัดขั้นตอนทั้งหมดออก แล้วมันไม่ตรงกว่าหรือ นั่นคือ พวกหล่อนต้องการทำบุญ อย่ามาอ้างกันว่า ทำบุญๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะหล่อนไม่ได้ต้องการทำบุญ พวกหล่อนอยากได้หน้า ว่าเป็นผู้ยอมแก้ผ้าเพื่อทำบุญ

กรอบสำคัญของทั้งหมดนี้ คือ ระบบคิดแบบทุนนิยม โดยมีนิตยสารเล่มนั้นเป็นผู้สร้างจุดขาย โดยใช้วิธีคิดงี่เง่าด้วยการใช้ภาพนู้ดเพื่อสร้างจุดขาย มิใช่แค่การเหยียดหญิง ทว่า เหยียดมนุษย์ ทั้งหญิงชาย เหยียดหยามสติปัญญาของผู้เสพงานศิลปะ เหยียดหยามมูลค่าความเป็นคน เหยียดหยามกระทั่งนิตยสารของตัวเอง

หากต้องการถ่ายภาพนู้ดแบบศิลปะ ก็ทำไป เป็นสิทธิ์ของการใช้เรือนร่างทั้งมวล ในทางของทุนนิยม แต่เมื่อคุณเอาสิ่งนี้เข้ามาเป็นจุดขาย เพื่อหาเงิน แล้วยังจะอ้างว่าเอาไปทำบุญ นั่นคือหายนะ

มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินกว่าจะเรียกว่าบริสุทธิ์ใจ

เจตนาของนางแบบอาจจะดี แต่กระบวนการคิดทั้งมวล มันบิดเบี้ยว อย่างน่าตกใจ

ข่าวคราวจบลงเมื่อ พระอุดมประชาทร หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ปฏิเสธรับเงินดังกล่าว โดยมีเหตุผลว่า “หลังมีข่าวออกไป ทางญาติโยมก็โทรศัพท์มาบอกว่าทางวัดไม่ควรรับเงินดังกล่าวเพราะไม่เหมาะสม อาตมาก็เห็นด้วย เพราะหากรับจะดูเหมือนไปส่งเสริมการกระทำที่ไม่เหมาะสม แต่ต้องขอบใจในน้ำใจอันดีงามของเหล่าดารานางแบบที่ต้องการจะช่วยเหลือทางวัด แต่ทางที่ดีควรหาวิธีการที่เหมาะสม จะจัดแข่งกีฬา หรือจัดการแสดงดนตรีน่าจะเหมาะกว่า อาตมาคงรับเงินไม่ได้ แต่หากผู้จัดและเหล่าดารามีความตั้งใจจริง ก็ให้นำเงินการกุศลครั้งนี้ไปมอบให้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 33 ต.ดงดินแดง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี แทน เพราะที่นั่นมีลูกหลานของผู้ป่วยเอดส์เรียนหนังสืออยู่” (เดลินิวส์ วัน เสาร์ ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2550)

นอกจากนี้ยังปิดท้ายรายการด้วยข่าว หนึ่งในนางแบบออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “แต่เข็ดเลยกับการทำงานแบบนี้ ต้องบอกว่าต่อไปนี้ ต้องคิดเยอะๆ กับการรับงานอะไรก็ตาม ต้องคิดเสมอว่าถ้ารูปนี้ไปอยู่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์จะเกิดอะไรขึ้น ต่อไปนี้คงจะได้เห็นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย” (คมชัดลึก 16 เมษายน 2550)

เรียกว่า “วงแตก”

ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ตามข่าวว่า ตกลงดาราทั้งมวล เขาได้เอาเงินไปทำบุญที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์33 ตามที่หลวงพ่ออลงกตท่านชี้แนะหรือไม่

นางคณิกา เขายังสร้างวัดกันสำเร็จ เลยนะ จะบอกให้

1 comment:

Anonymous said...

มิโดริครับ เราย้ายบ้านใหม่แล้วนะครับ เข้ามาเยี่ยมเราได้ที่ birdday20.blogspot.com