Friday, December 1, 2006

โฆษณาเหยียดหญิง

น่าจะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ในโฆษณาโทรทัศน์นั้น เป็นสุดยอดแห่งการนำผู้หญิงมาทำให้ “ดูทุเรศ” สร้างภาพลวงสร้างค่านิยมความสวย ขาว อวบ ก็เรื่องหนึ่ง ค่านิยมเรื่องตัวหอมล่อผู้ชายก็เรื่องหนึ่ง ไหนจะเรื่องมีผมสวยเซ็กซี่ ล่อผู้ชาย ให้มาลูบไล้ อีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องน่าสมเพชที่กลายเป็นที่ยอมรับจนเป็นเรื่องปกติ และผู้หญิงเราก็ดำรงอยู่ในกรอบปัญญาอ่อนแบบนี้มาตราบนานเท่านานจนรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่มีโฆษณาอีกประเภท ที่ทุเรศยิ่งกว่า
นั่นคือ โฆษณาจำพวกส่อเซ็กส์
ยกตัวอย่าง ก๊อกน้ำทองเหลือง ที่มีน้อง “หนิม” หรือสนิม นมโต นอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ ไม่รู้พวกครีเอถีบ (ขอใช้ ถีบ เถอะ พวกคนเก่งทั้งหลาย) มันคิดอะไรอยู่ ก๊อกน้ำกับน้องหนิมนมโตเนี่ยนะ!!~ ส่อความคิดยั่วยวนทางเพศ โดยจงใจ ทว่ากลับเคลือบลวงด้วยมุกตลกหน้าด้านๆ ปัญญานิ่ม เพื่อที่จะพยายามบอกว่าโฆษณาของฉันไม่ได้โป๊นะ นี่มันยิ่งกว่าการแสดงความโป๊แบบโต้งๆ ด้วยซ้ำ
อีกโฆษณา หลอดไฟ คนขายนมหก นั่นก็มาอีหรอบเดียวกัน
หากมองแบบวิเคราะห์สัญญะ อาจจะมองได้ว่า ไอ้หลอดไฟ กับก๊อกน้ำ คือตัวแทนของเพศชาย ทั้งรูปร่างหน้าตา ความสำคัญ คือ เป็นที่เปล่งแสงสว่าง และปล่อยน้ำออกมาได้ ไม่ต่างจากองคชาติ อันสามารถเปล่งร่างให้สว่างใหญ่และปล่อยน้ำได้ คนคิดโฆษณาจึงรู้สึกว่า วัตถุทั้งสองนี้ ส่อนัยยะแสดงความสำคัญของเพศชาย และจำเพาะเจาะจงว่า ผู้หญิงนมโตเท่านั้นจึงจะคู่ควรกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้าทั้งสองชนิด
โฆษณาล่าสุดที่สมควรด่า
เสื้อสุภาพบุรุษ กับแม่บ้านเซ็กส์จัด
สินค้าคือเสื้อรีดง่าย ประหยัดไฟ ช่วยให้แม่บ้านคนสวย ได้ประหยัดเวลารีดผ้า มองภาพแรกคือ โฆษณานี้จำลองบทบาททางเพศของหญิงชาย นั่นคือ ผู้ชาย คู่ควรกับสินค้านวัตกรรมใหม่ ผู้ชายไม่ต้องทำงานบ้านรีดผ้า ในขณะที่ผู้หญิงคือผู้รับหน้าที่รีดผ้า
ประเด็นสืบเนื่องต่อมาคือ เพศชายมี “บุญคุณ” กับเพศหญิงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อใช้สินค้าชนิดนี้เพื่อช่วยผ่อนแรงผู้หญิง ทำให้พวกหล่อนมีเวลาว่าง ลดการทำงานอันหนักหนาลง (โดยที่เพศชายไม่ต้องทำอะไร นอกจากใส่เสื้อชนิดนี้) และตบท้ายด้วยประเด็นที่ร้ายแรงมาก เมื่อ เพศหญิงยกมือขึ้นเพื่อปิดไฟ และเอ่ยออกมาว่า เวลาที่เหลือจะทำอะไรกันดี! ภาพที่ส่อก็คือ การปิดไฟและแสดงท่าทางโหยหาเพศรสขึ้นมาบัดดล!!
เรื่องน่าทุเรศ ที่ครีเอถีบคิดได้ คือ เพศหญิงต้องรองรับทุกอารมณ์ ทุกการงาน และต้องทำตัวเป็นนางยั่วสวาท มีความต้องการทางเพศตลอดเวลา เหตุใดจึงต้องให้เพศหญิงเป็นฝ่ายชักชวนเพศชายด้วยการปิดไฟ ทั้งที่ในความเป็นจริง อาจจะเป็นผู้ชายก็ได้ที่ต้องการปิดไฟ (เสียตั้งแต่พวกหล่อนยังรีดผ้าไม่เสร็จด้วยซ้ำ)
โฆษณานี้พยายามตอกย้ำความคิดแบบผู้ชายๆ ว่า ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องสนองผู้ชาย ทว่าถ้าเราบอกแบบนี้กับคนที่คิดโฆษณานี้ เขาก็จะตอบแบบไสหัวไปตามถนน ว่า ผู้หญิงในโฆษณาก็แค่จะปิดไฟนอน ก็ได้ ในประโยคต่างๆ ก็ไม่มีอะไรส่อเลยแม้แต่น้อย เขาก็คงจะด่ากลับว่าอีพวกเฟมินิสต์นี้ประสาทแดก หาเรื่อง
แต่ขอบอกว่า ข้าพเจ้ามิได้เป็นเฟมินิสต์ แต่อย่างใด ข้าพเจ้าออกจะไปในทาง
หญิงเหยียดหญิงเสียด้วยซ้ำ
แต่ข้าพเจ้าเชื่อในการชำแหละความคิดของมนุษย์ ว่ามันล้วนมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง บางครั้งข้าพเจ้าก็อาจก่นด่าผู้หญิงโง่ที่ทำตามสังคมโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าตัวเองกำลังเป็นเหยื่อของสังคม แต่บางครั้งข้าพเจ้าก็อาจจะชื่นชมผู้หญิงที่ออกมาแก้ผ้าถ่ายแบบโป๊ โดยไม่ต้องพึ่งพิงคำว่ายากจน หรือถูกบังคับ อยากถ่ายก็ถ่าย ถ่ายแล้วได้เงินก็ทำไป แต่อย่าทำโดยไร้สติ ทำแล้วก็ต้องยอมรับความจริงต่อสิ่งที่จะตามมา ไม่ว่าจะด่าหรือชม
แต่สำหรับ “การโฆษณา” นั้น ข้าพเจ้าขอสารภาพว่า ข้าพเจ้ามิเคย “เชื่อ” มันเลยแม้แต่น้อย พวกเราอยู่ท่ามกลางการดูโฆษณาจนชาชิน และลืมที่จะโต้แย้งกับมันมานาน ลืมที่จะตั้งข้อสงสัยกับมัน จนกระทั่งทุกวันนี้ เศรษฐกิจและสังคมของเรากำลังขับเคลื่อนด้วยแรงโฆษณา เด็กในวันนี้จึงเติบโตมากับสิ่งจอมปลอม และคิดว่าชีวิตจอมปลอมนี้คือของจริง

No comments: