Thursday, April 12, 2007

จุดขายข่าว สิทธิในการโป๊ และทฤษฎีการสมคบคิด






















จุดขายข่าว สิทธิในการโป๊ และทฤษฎีการสมคบคิด
ที่มาภาพ จาก http://www.matichon.co.th/news_relate/gallery.php?reid=20070213082616

ข่าวที่ฮือฮาไปไม่กี่วันนี้ เกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัวสุดขีดของดาราหน้าตาดีมั่งไม่ดีมั่ง ดังมั่งไม่ดังมั่ง ในงานสุพรรณหงส์ นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ “ความโป๊เปลือย” ถูกนำมา “ฉะ” กันอีกรอบ
ดาราคนหนึ่ง (ที่ไม่เคยเห็นหนังของเธอเลย ให้ตายเหอะ) ปีที่แล้วก็ตกเป็นข่าวท่อนบนหลุด มาปีนี้ท่อนล่างโผล่ ส่วนนางเอกคนหนึ่งที่หน้าตาจัดว่าสวย โดนประณามเพราะเสื้อแสนบาง ที่ปิดเต้าได้ซีกเดียว ส่วนที่ฮือฮาที่สุดเห็นจะเป็นดาราที่อุตสาห์พ่วงดีกรีนักศึกษามหาวิทยาลัย มาในชุดที่คิดไม่ออกว่า ไปงานกลางคืน หรือไปนั่งในตู้ (ตู้เย็นมั้ง)

เซ็กส์ เป็นจุดขายของสื่อมวลชนทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ รวมทั้งวิทยุ ทั้งการข่าว การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ เพราะเซ็กส์ เป็นจุดขายที่กระตุ้นได้ง่ายที่สุด ก่อกระแสความอยากรู้อยากเห็นไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งฉาวยิ่งดัง ยิ่งเปิดนิดยิ่งอยากดูอีกหน่อย ดังนั้น หากแค่เห็นเจ้าหล่อนเดินมาแต่ไกลจากปากทางเข้างานสุพรรณหงส์ ก็บอกได้ง่ายๆ ว่า พวกหล่อนมีจุดขายอยู่กับตัว ทั้งท่อนบนทอนล่างทีเดียว

ถามว่า พวกหล่อนทำผิดหรือไม่ ที่แต่งตัวอื้อฉาวคาวโลกย์ขนาดนั้น ถ้าอ้างแบบ “เฟมฯๆ” ก็ตอบได้ง่ายๆ เลยว่า “ร่างกายของฉันก็คือร่างกายของฉัน และสิทธิทั้งมวล อยู่ที่ตัวฉัน” พวกหล่อนอาจจะเป็นเฟมินิสต์สุดขั้วที่ต้องการประกาศว่า ผู้หญิงมีสิทธิ์ในการใช้เรือนร่างของตัวอย่างเต็มที่ แต่ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่คำตอบของดาราคนหนึ่ง ที่ระบุว่า
“ค่ะอยากดัง จริงๆ นักแสดงและดาราที่เข้ามาตรงนี้ทุกคนมีจุดมุ่งหวังของชีวิตว่า มาอยู่ตรงนี้ก็อยากทำให้ดีที่สุดในหน้าที่ของตัวเอง นิวยอมรับว่าอยากดัง นิวรู้สึกว่าน่าจะมีอะไรหลายๆ อย่างที่อยากบอกกับสื่อ และผู้บริโภค แต่นิวรู้สึกว่าเราตะโกนออกไปไม่มีใครได้ยินเสียงของเราเลย แต่วันนี้ทุกคนได้ยินเสียงนิวแล้วก็อยากจะบอกว่า อย่ามองแต่ความเซ็กซี่ของนิว ช่วยมองที่ความสามารถ หันกลับมามองเรื่องการแสดงและบทบาทเป็นอย่างไร “ (อ้างจาก ข่าวสดออนไลน์ http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03p0101140250&day=2007/02/14§ionid=0301)

นี่เป็นคำพูดที่พุ่งเป้าไปสู่สื่อมวลชนโดยเฉพาะ หญิงสาวคนหนึ่งพยายามจะบอกว่า หากหล่อนอยู่ในกรอบเกณฑ์ หล่อนไม่ได้รับความสนใจจากสื่อ แต่เมื่อใดที่หล่อนขายเซ็กส์ สื่อจะตะครุบหล่อนทันที ดังนั้น การที่หล่อนโชว์เนื้อหนัง ก็เพราะหล่อนต้องการให้สังคม (แบบชายเป็นใหญ่) หันมามองความสามารถของหล่อน สื่อมวลชนจึงเป็นจำเลยสำคัญในกรณีนี้ สื่อมวลชนทำหน้าที่ดุจพระเจ้าที่จะเลือกนำผู้หญิงคนใดมากล่าวถึง ขึ้นหน้าหนึ่ง พวกหล่อนที่เป็นเพียงเพศรองที่ต้องแสดงตัวให้ถูกเลือกจึงไม่มีวิธีอื่น นอกจากโชว์เนินเนื้อเท่านั้น สื่อเป็น “ผู้ดู” ทั้งนักข่าว ช่างภาพ และเป็น “ผู้เลือก” ประเมินค่า ตีราคาพวกหล่อน รวมทั้งเป็นคนสำคัญในการนำพวกหล่อนมาขายอย่างถูกต้อง ด้วยการขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ในขณะเดียวกันก็ยัดเยียดข้อหาดาวยั่วสวาทให้พวกหล่อนเสร็จสรรพ อีกทั้งไปแสวงหาคำประเมินคุณค่าอีกมากมายมาตอกย้ำความเป็นดาวยั่วของพวกหล่อน สายตาของสื่อเป็นตัวแทนของสายตาหื่นกระหายของระบบสังคมแบบชายเป็นใหญ่
ใช่ พวกหล่อนมีสิทธิจะแต่งกายอวดเรือนร่าง แต่หล่อนลืมคิดไปว่า พวกหล่อนอยู่ในสังคมที่ชายเป็นใหญ่ และเนื้อตัว ร่างกายของพวกหล่อน ถูกจ้องมอง ถูกตีค่า จากสายตาของพระเจ้าสื่อมวลชน ดังนั้นเมื่อหล่อนจึงทำตัวเป็น “ผู้ถูกมอง” อย่างที่สังคมแบบชายเป็นใหญ่ต้องการ นั่นคือ โชว์เนินเนื้อให้เต็มที่ ก่อนที่จะแสดงบท “เด็กสาวถูกลงโทษ” ด้วยการออกรายการโทรทัศน์ ร้องห่มร้องไห้สำนึก หรือโร่ชี้แจงข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้งหมดทั้งมวล คือภาพบทบาทของหญิงสาวยั่วสวาทสำนึกผิด ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ชาย (ไม่ใช่แต่เสี่ยเจียงที่เป็นผู้ชายเป็นใหญ่ แต่สังคมนี้ คือผู้ชายเป็นใหญ่) เราจึงเห็นปรากฏการณ์ดังที่เกิดขึ้นในจอโทรทัศน์ หรือหน้าหนังสือพิมพ์

แต่จากเหตุการณ์นี้ ใครบ้างที่ได้ประโยชน์ หญิงสาวเป็นเพียงหมากเดียว ในเกมของผลประโยชน์ (แม้ว่าหล่อนจะคิดว่าหล่อนได้ประโยชน์จากการนี้ เพราะสื่อมวลชนหันมามองพวกหล่อนเป็นตาเดียว และหล่อนก็มีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ และได้ออกข่าวช่วงไพรมไทม์อย่างน้อย 3 วันติดกัน)
อันดับแรก สื่อมวลชน ได้มีข่าวฉาวขายต่อเนื่องไป 3 วัน จากกรณีของหล่อน ไปสู่การพยายามจะโทษว่าพวกหล่อนเป็นต้นเหตุของปัญหาสังคม แม้จะมีความคิดเห็นตรงข้ามบ้าง แต่ก็เป็นเพื่อรักษาสมดุลของข่าว ตามทฤษฎีข่าวเท่านั้น) เพื่อให้เกิดกระแสโต้เถียงกันบ้าง เป็นการขายข่าวได้ต่อเนื่องแตกไปอีกหลายประเด็น (รวมถึงบทความนี้ด้วย)

อันดับที่สอง หนังชื่อพิลึกๆ ทั้งหลายที่หล่อนร่วมแสดง กลับได้รับการพูดถึงซ้ำๆ ซากๆ โดยไม่ต้องทำการตลาด ไม่ต้องซื้อหน้าโฆษณาหนังสือพิมพ์ขายดีอันดับประเทศ ไม่ต้องซื้อเวลาข่าวโทรทัศน์ ดาราร่วมแสดงได้ออกรายการโดยไม่ต้องร้องขอ รายการคุยข่าวทั้งหลายเอ่ยถึงโดยไม่ต้องเสียเงินจ้าง ดังล้ำหน้าหนังไปอีก ปลุกกระแสได้น่าตื่นใจโดยยังไม่ได้เปิดตัว
นี่อาจเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้พวกหล่อนต้องยอมเจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ ด้วยคำสัญญาเบื้องหลังว่า พวกหล่อนจะดังในชั่วข้ามคืน เป็นข้อเสนอที่ยั่วยวนไม่น้อย เพราะดาราทุกวันนี้ล้นจอจนเกิดยากเกิดเย็นเหลือเกิน

มีแต่พวกหล่อนเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อ ในขณะที่ทุกฝ่ายฉกฉวยทุกอย่างจากร่างกายของหล่อน
แล้ว...คนที่หากินกับผู้หญิงขายเรือนร่าง เขาเรียกว่า “แมงดา” มิใช่หรือ??

No comments: